วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2562

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 8
การให้การศึกษาผู้ปกครองเด็กปฐมวัย
Parent Education for Early Childhood
วันพฤหัสบดี ที่ 3 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2562
เวลา 12.30- 15.30 น.
ความรู้ที่ได้รับ (Story of subject)
   😇  อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มนำเสนอวิจัยเกี่ยวกับชุดกิจกรรมและการให้ข้อมูลผู้ปกครอง 
กลุ่มที่ 1 เรื่องการส่งเสริมความเข้าใจภาษาของเด็กปฐมวัยโดยผู้ปกครองใช้ชุดกิจกรรม "เล่นกับลูกปลูกภาษา"
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 
     💛เพื่อศึกษาพัฒนาการทางด้านความเข้าใจภาษาของเด็กปฐมวัยโดยผู้ปกครองใช้ชุดกิจกรรม เล่นกับลูกปลูกภาษา
     💛เพื่อเปรียบเทียบความเข้าใจภาษาของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลูกภาษา
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1. ชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลูกภาษา
2.แบบวัดความเข้าใจทางภาษาของเด็กปฐมวัย
3.แบบวิเคราะห์ความเข้าใจทางภาษาของเด็กปฐมวัย
สรุปผลการวิจัย
1. เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมส่งเสริมความเข้าใจภาษาโดยผู้ปกครองใช้ชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลูกภาษา มีพัฒนาการความเข้าใจภาษาโดยรวมสูงขึ้น ร้อยละ 53.72 ของความสามารถพื้นฐานเดิม
2. เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมส่งเสริมความเข้าใจภาษาโดยผู้ปกครองใช้ชุดกิจกรรมเล่นกับลูกปลูกภาษา มีความเข้าใจภาษาโดยรวมและจำแนกรายด้าน คือการใช้คำอย่างมีจุดหมายและการใ้ประโยคเพื่อสื่อความหมาย สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01


กลุ่มที่ 2 เรื่องการศึกษาผลของการให้การศึกษาแก่ผู้ปกครองในการสอนความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 
 👉 เพื่อเปรียบเทียบความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยอายุระหว่าง 2 ½ -4 ปีบริบูรณ์ ในชนบทที่สอนโดยผู้ปกครองซึ่งคิดวิธีสอนและการใช้สื่อในการสอนเด็กด้วยตัวเองหลังจากได้รับการศึกษาโดยคิดวิธีสอนและการใช้สื่อในการสอนเด็กร่วมกับผู้วิจัยกับผู้ปกครองซึ่งเรียนรู้วิธีสอน และการใช้สื่อในการสอนเด็กจากชุดการสอนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1.ชุดการสอนเพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านความคิดรวบยอดทางศาสตร์ เรื่อง รูปวงกลม  สีเหลี่ยม และสามเหลี่ยม ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นสำหรับผู้ปกครองกลุ่มที่เรียนรู้วิธีสอนและการใช้สื่อในการสอนเด็กจากชุดการสอน
2.แบบันทึกวิธีสอนและรายชื่อสื่อสำหรับผู้ปกครองกลุ่มที่คิดวิธีสอนและการใช้สื่อในการสอนเด็กร่วมกับผู้วิจัย เรื่อง  รูปวงกลม  สีเหลี่ยม และสามเหลี่ยม ซึ่งผู้วิจัยเป็นผู้บันทึก หลังจากผู้ปกครองคิดวิธีสอนและสื่อที่ใช้ในการสอนเด็กร่วมกับผู้วิจัยแล้ว
3.แบบบันทึกปริมาณการใช้สื่อในการสอนเด็กสำหรับผู้ปกครอง ซึ่งผู้วิจัยใช้บันทึกรายชื่อสื่อ และจำนวนสื่อ ที่ผู้ปกครองทั้ง 2 กลุ่มใช้สอนเด็ก เรื่อง ใหญ่ – เล็ก   ยาว – สั้น  หนัก – เบา  และ มาก –  น้อย
4.แบบทดสอบความคิดรวบยอดทางคณิตสาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยอายุระหว่าง 2 ½ - 4 ปีบริบูรณ์   เรื่อง  ใหญ่ – เล็ก   ยาว – สั้น  หนัก – เบา  และ มาก –  น้อย
สรุปผลการวิจัย
 👉 ความสามารถในการสร้างความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยอายุระหว่าง 2 ½ -4 ปีบริบูรณ์ ในชนบทที่สอนโดยผู้ปกครองที่ได้รับการศึกษาโดยคิดวิธีสอนและการใช้สื่อในการสอนเด็กร่วมกับผู้วิจัย และเรียนรู้วิธีการสอนและการใช้สื่อในการสอนเด็กจากชุดการสอนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
ตัวอย่างชุดกิจกรรม



กลุ่มที่ 3 เรื่องการเสริมพื้นฐานทักษะทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยผู้ปกครองผ่านชุดกิจกรรม “สนุกกับลูกรัก”

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 
1.เพื่อศึกษาทักษะทางคณิตศาสตร์

2.เพื่อศึกษาทักษะการเปลี่ยนแปลงของทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์
3.เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
- ชุดกิจกรรม“สนุกกับลูกรัก” จำนวน 8 ชุด
- แบบทดสอบเชิงปฏิบัติทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
การดำเนินการวิจัย 
ขอความร่วมมือจากผู้ปกครอง
  💛 ทำการทดสอบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์เป็นรายบุคคล
  💛 เชิญผู้ปกครองเข้าร่วมปฐมนิเทศ เพื่อรับทราบบทบาทและขั้นตอนของกิจกรรม
  💛 มอบหมายชุดกิจกรรมให้เด็ก
  💛 ผู้วิจัยเก็บรวบรวมชุดกิจกรรม
  💛 แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้ปกครองละผู้วิจัย
  💛 ดำเนินการทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง ระยะเวลา 8 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 3 วัน คือ วันจันทร์ พุธ ศุกร์ วันละ 45 นาที ทั้งหมด 24 ครั้ง
สรุปผลการวิจัย
  หลังจากการส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยผู้ปกครองผ่านชุดกิจกรรม “สนุกกับลูกรัก” เด็กปฐมวัยมีพัฒนาการทักษะทางพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยรวมและจำแนกรายทักษะสูงขึ้น
ตัวอย่างชุดกิจกรรม



กลุ่มที่ 4 เรื่องการพัฒนาโปรแกรมการศึกษาสำหรับผู้ปกครอง
ในการส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กวัยอนุบาลด้วยรูปแบบการให้ประชาชนในชนบทมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 
👉 เพื่อพัฒนาโปรแกรมการศึกษาสำหรับผู้ปกครองในการส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกายของเด็กวัยอนุบาล ด้วยรูปแบบการให้ประชาชนในชนบทมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
👉 ประชากรที่ใช้ในการวิจัย  ผู้ปกครองของเด็กวัยอนุบาลทั้งหมดในหมู่บ้านหนองกก หมู่ที่4 ตำบลพัฒนา อำเภอพรพิน จังหวันครศรีธรรมราช ในปีพ.ศ.2540 มีจำนวนทั้งสิ้น39คน
สรุปผลการวิจัย
1.ผู้ปกครองมีการเปลี่ยนแปลงแบบแผนพฤติกรรมการส่งเสริมการรักษาสุขภาพในช่องปากและฟันของเด็กอนุบาล ด้านการแปรงฟัน จากพฤติกรรมการไม่ได้ติดตามการดูแลการแปรงฟันของเด็กหรือติดตามอย่างไม่สม่ำเสมอ มาเป็นพฤติกรรมการดูแลการแปรงฟันของเด็กอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กในด้านการแปรงฟัน
2.ผู้ปกครองมีการเปลี่ยนแปลงแบบแผนพฤติกรรมการส่งเสริมการรักษาสุขภาพในช่องปากและฟันของเด็กวัยอนุบาล ด้านการรับประทานอาหารมีประโยชน์จากพฤติกรรมปล่อยให้เด็กเลือกซื้ออาหารรับประทานเองตามใจชอบ ซึ่งมักไม่มีคุณค่าของสารอาหาร มาเป็นพฤติกรรมดูแลรับประทานอาหารเด็กอย่างสม่ำเสมอด้วยการเลือกซื้ออาหารที่มีประโยชน์ให้เด็กรับประทาน กำกับดูแลการเลือกซื้อและรับประทานอาหารอย่างใกล้ชิดรวมทั้งแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กในการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
กลุ่มที่ 5 เรื่องการพัฒนาโปรแกรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเพื่อพัฒนานิสัยรักการอ่าน
ของเด็กปฐมวัย
วัตถุประสงค์ของการวิจัย 
 💗 เพื่อศึกษาผลการใช้โปรแกรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเพื่อพัฒนานิสัยรักการอ่านของเด็กปฐมวัย
 💗 เพื่อพัฒนานิสัยรักการอ่านของเด็กปฐมวัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1.โปรแกรมการมีส่วนร่วมของผ้ปกครองในการพัฒนานิสัยรักการอ่านของเด็กปฐมวัย
2.แบบวัดความรู้ความเข้าใจของผู้ปกครองในการพัฒนานิสัยการรักการอ่านของเด็กปฐมวัย
3.แบบสังเกตพฤติกรรมนัสัยการรักการอ่านของเด็กปฐมวัย
สรุปผลการวิจัย
💗 ผู้ปกครองที่ใช้โปรแกรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเพื่อพัฒนานัสัยรักการอ่านของเด็กปฐมวัย มีความรู้ความเข้าใจในการส่งเสริมเด็กปฐมวัยให้มีนิสัยรักการอ่านสูงขึ้นหลังการทดลอง
💗 ผู้ปกครองที่ใช้โปรแกรมการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเพื่อพัฒนานัสัยรักการอ่านของเด็กปฐมวัย มีการพัฒนานิสัยรักการอ่านสูงขึ้นหลังการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ตัวอย่างกิจกรรม


😶😶😶 การประเมิน (Assessment) 😶😶😶

ประเมินอาจารย์ : เข้าสอนตรงเวลา ให้คำแนะนำดี

ประเมินเพื่อน : ตั้งใจทำงานส่งอาจารย์ ตั้งใจฟังเพื่อนนำเสนอไม่คุยกันเสียงดัง

ประเมินตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบ ตั้งใจฟังอาจารย์ข้อเสนอแนะของอาจารย์ และตั้งใจทำงานและแบ่งหน้าที่ในการทำงานได้ดี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น